วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2559

ปลานโปเลียน


ปลานโปเลียน

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ปลานโปเลียน
สถานะการอนุรักษ์
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร:Animalia
ไฟลัม:Chordata
ชั้น:Actinopterygii
อันดับ:Perciformes
วงศ์:Labridae
สกุล:Cheilinus
สปีชีส์:C. undulatus
ชื่อทวินาม
Cheilinus undulatus
Rüppell1835
ชื่อพ้อง
  • Cheilinus godeffroyi Günther, 1872
  • Cheilinus mertensii Valenciennes in Cuvier & Valenciennes, 1840
  • Cheilinus rostratus Cartier, 1874
ปลานโปเลียน หรือ ปลานกขุนทองหัวโหนก (อังกฤษNapoleonfish, Humphead wrasse, Mauri wrase) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cheilinus undulatus จัดอยู่ในวงศ์ปลานกขุนทอง (Labridae)

ลักษณะ[แก้]

มีรูปร่างและลักษณะคล้ายปลาในวงศ์ปลาหมอสี (Cichlidae) ซึ่งเป็นปลาน้ำจืด เมื่อยังเล็กมีลายแถบสองเส้นที่คาดผ่านตาเฉียงขึ้น เมื่อโตขึ้นลายแถบอันนี้จะหายไป สีพื้นลำตัวจะเข้มขึ้น ในปลาเพศผู้มีสีเหลือบเขียวอมน้ำเงิน มีลายสีชมพูปรากฏเป็นจุดเป็นเส้นเล็ก ๆ แทรกตามเกล็ด ซึ่งมีความแวววาวเป็นเลื่อมมัน ขณะที่ปลาเพศเมียจะมีลวดลายที่อ่อนกว่า ซึ่งปลาทั้งสองเพศจะมีจุดเด่นที่สังเกตได้ง่าย คือ ส่วนหัวที่โหนกนูนเหมือนสันหรือนอเห็นอย่างชัดเจน ซึ่งจะปรากฏเมื่อปลามีความยาวได้ 2-3 ฟุต ขอบหางมีสีเขียวอมเหลือง มีดวงตาที่สามารถกลอกกลิ้งไปมาได้
จัดเป็นปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในวงศ์นี้ โดยเต็มที่อาจยาวได้ถึงเกือบ 3 เมตร และมีน้ำหนักถึง 190 กิโลกรัม

ปลานโปเลียนกับนักดำน้ำ ที่ปาเลา

ที่อยู่[แก้]

เป็นปลาที่อาศัยหากินอยู่ในแนวปะการัง พบกระจายพันธุ์ในทะเลเขตร้อน เช่น มหาสมุทรแปซิฟิก และมหาสมุทรอินเดีย โดยกินปลาและสัตว์น้ำขนาดเล็กกว่าเป็นอาหาร
สำหรับในน่านน้ำไทย พบแพร่กระจายอยู่แถบทะเลอันดามัน พบตามบริเวณกองหิน แนวปะการังของ เกาะสุรินทร์หมู่เกาะสิมิลัน ในความลึกประมาณ 3-30 เมตร [2]

ชื่อเรียกอื่น[แก้]

เหตุที่ได้ชื่อว่า "นโปเลียน" ด้วยเหตุที่ส่วนหัวที่โหนกนูน โดยเฉพาะในปลาเพศผู้ที่จะโหนกกว่าปลาเพศเมีย แลดูคล้ายหมวกของจักรพรรดินโปเลียน[3]
เป็นปลาที่ได้รับความนิยมเลี้ยงในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำต่าง ๆ ทั่วโลก และยังนิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงามอีกด้วย โดยปลาที่ขายกันในตลาดปลาสวยงาม มักเป็นปลาวัยอ่อนที่มีความยาว 2-3 นิ้ว และจับมาจากฝั่งอ่าวไทยเป็นส่วนใหญ่[3]

อ้างอิง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น